บ้านอาวอยเหนือหมู่ที่ ๒๐
ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์
จังหวัดศรีสะเกษ
ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์
จังหวัดศรีสะเกษ
@@@@@@@@@@@@@@
อาวอยเหนือแดนสาวงาม น้ำใจดี
มีขนมจีนเหนียวนุ่ม กลุ่มเศรษฐกิจมั่นคง
ดำรงคุณธรรม
ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
หมู่บ้านอาวอยเหนือ หมู่ที่ ๒๐ ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
หมู่บ้านอาวอยเหนือ หมู่ที่ ๒๐ ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เดิมทีบ้านอาวอยเหนือนั้นได้เป็นส่วนหนึ่งของ บ้านอาวอย หมู่ที่ ๒ ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งในช่วงนั้น บ้านอาวอย หมู่ที่๒ ได้มีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น และเป็นชุมชนหนาแน่น ทำให้ยากต่อการปกครองและยากต่อการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ คณะกรรมการหมู่บ้านในช่วงนั้นจึงได้ปรึกษาหารือกัน และได้จัดประชุมประชาคมชาวบ้านเพื่อขอแยกหมู่บ้าน และมีมติที่ประชุมให้แยกหมู่บ้าน ขึ้นใหม่อีกหนึ่งหมู่บ้าน คือ บ้านอาวอยเหนือ หมู่ที่ ๒๐ ตำบลโสน อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๕ โดยได้มีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ นายชำนาญ น้อยสงวน ผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันคือ นายทวน มานะรถ
๑. ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๔๔๕ ได้มีนายนวย นายจิต นายวอย ได้อพยพจากบ้านโสน ไปทางทิศใต้ ห่างจากบ้านเดิมประมาณ ๓ กิโลเมตร ได้พบหนองน้ำแห่งหนึ่งทางทิศตะวันตกเป็นลําห้วย เป็นแหล่งอุดม สมบูรณ์ จึงได้ตกลงกันตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้ ในขณะที่นายนวน นายจิต และนายวอย กําลังตั้งหมู่บ้านในแถบ นี้ ได้มีชุมชนที่อพยพจากบ้านโสนมาตั้งหมู่บ้านอยู่ก่อนแล้วคือ กลุ่มบ้านฮ่อง กลุ่มบ้านหนองแอด กลุ่มบ้าน หนองป่าแคน กลุ่มบ้านเหนือ แต่ชุมชนบ้านเก่าใหญ่นั้น เป็นชุมชนที่เก่าแก่ที่สุด ไม่มีใครทราบประวัติ แต่ก็มี การเล่าต่อๆกันมาว่า เป็นหมู่บ้านใหญ่ มีวัด ๓ วัด มีวัตถุโบราณ คือ พระธาตุ สันนิษฐานว่า คงบรรจุอัฐิบุคคล ที่สําคัญในอดีต
ในกาลต่อมา นายวอยได้ป่วย และถึงแก่กรรมลง นายนวน นายจิต พร้อมบุตรหลาน ได้นําศพ นายวอยไปฝังไว้ที่ฝั่งหนองน้ำและได้ทําบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ตามประเพณี สมัยนั้นยังไม่มีวัดต้องไปนิมนต์ พระจากวัดโสนบ้านเดิมมาทําบุญ หลังจากมีการฝังศพนายวอยที่ฝั่งหนองน้ำ บุตรหลานก็เรียกหนองน้ำว่า “หนองอาววอย” คําว่า อาว เป็นภาษาลาว หมายถึง อา คือน้องของพ่อ ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่าบ้านอาวอย และ .ทางราชการได้เปลี่ยนเป็น “บ้านอาวอย” เพื่อให้ถูกต้องตามภาษาทางราชการ
ในกาลต่อมาหลังจากทําบุญอุทิศให้นายวอยแล้ว กลุ่มชนกลุ่มนี้เสียขวัญเพราะเชื่อตามคติของ คนโบราณว่า ถ้าชุมชนใดมีคนถึงแก่กรรมก่อนวัยอันควร ถือว่าเป็นเหตุไม่ดี ต้องย้ายหมู่บ้านจึงได้ตกลงกัน ย้ายไปทางทิศตะวันออกไปพบกับหนองน้ำแห่งหนึ่งเลือกทําเลที่เหมาะสมแล้วจึงได้ตั้งหมู่บ้านทางทิศ ตะวันตกของหมู่บ้าน (ในกาลต่อมาได้ชื่อว่า หนองพะลาด) พอถึงฤดูทํานาต้องกลับทํานาที่ฝั่งหนองอาวอย เหมือนเดิม ในขณะที่ประชาชนของชนกลุ่มนี้กําลังเสียขวัญและกําลังใจ ได้มีพราหมณ์ท่านหนึ่งนั่งมาบนหลังช้าง ได้ให้การต้อนรับและขอความอนุเคราะห์ปรึกษาหารือเรื่องความสงบสุขร่มเย็นของบุตรหลาน พราหมณ์ ท่านบอกว่าภูมินี้เป็นภูมิที่ดี อุดมสมบูรณ์ จะอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรือง จะมีบ้านถึง 900 หลังคา แต่จะเป็นโนนแม่หม้าย คือ พ่อบ้านจะเป็นคนขยันขันแข็ง ทํางานหนัก มักจะมีอายุสั้นกว่าภรรยา (ที่มาของโนนแม่หม้าย) และก่อนที่ท่านจะจากไป ท่านได้กระทําพิธีขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ขอให้มีแต่ความ เป็นศิริมงคล ร่มเย็นเป็นสุขตลอดไป ต่อจากนั้นมาไม่มีใครเคยพบเห็นพราหมณ์ผู้อาวุโส นั้นเลยในกาลต่อมา ได้มีชุมชนบ้านหนองแอด ผู้นําคือ นายดํา (ต้นตระกูลอาคะพงษ์) ได้พร้อมใจกันอพยพบ้านเรือนมาอยู่รวมกัน บริเวณบ้านอาวอย และกลุ่มบ้านเหนือ ย่านโนลอมคอม ได้ขยับขยาย จนกลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ขณะนี้ มีหลังคาเรือนทั้งหมดมากกว่า 500 หลังคาเรือน
บ้านอาวอย ตําบลโสน มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือ นายนาม อาคะพงษ์ เจ้าเมืองขุขันธ์ออกมาเยี่ยมดูแลทุกข์สุขเป็นประจําไม่เคยขาด ตามหมู่บ้านต่างๆ สําหรับชาวพุทธแล้วมักจะมีการสร้างวัดและ โรงเรียนควบคู่กันไป ดังนั้นชาวบ้านจึงได้มีการสร้างวัดขึ้นดังประวัติวัดที่ท่านได้อ่านแล้วนั้นในส่วนโรงเรียน บ้านอาวอยสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ผู้บริจาคที่ดิน คือ นางเนียม อัจนา นายนาค พรมโคตร ครูใหญ่คนแรก นายผิว ขุขันธิน
บ้านอาวอยเป็นหมู่บ้านใหญ่ แบ่งการปกครองในขณะนี้เป็น ๔ หมู่ ดังนี้
๑. บ้านอาวอย หมู่ที่ ๒
๒. บ้านอาวอยใต้ หมู่ที่ ๑๓
๓. บ้านอาวอยเหนือ หมู่ที่ ๒๐
๔. บ้านอาวอยพัฒนา หมู่ที่ ๒๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น